ิอุทยานวังตะไคร้


           วังตะไคร้หรือจุมภฏ – พันธุ์ทิพย์อุทยาน แห่งนี้เป็นแหล่งที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 120 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัดนครนายกประมาณ 16 กิโลเมตร มวลพฤกษชาติพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับภายในอุทยานแห่งนี้ จะออกดอกสะพรั่งตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงิน ทำให้เกิดทัศนียภาพงดงามทุกฤดูกาลโดยเฉพาะในฤดูฝน นอกจากนั้นยังมีพันธุ์ไม้นานาชนิดอุทยานวังตะไคร้จึงเป็นดินแดนที่มีเสน่ห์แห่งความงามตามธรรมชาติ พื้นดินเป็นที่ลาดเนิน สูง ต่ำ ตามธรรมชาติตัดกับท้องฟ้าสวยงามมาก

           นับจากปี พ.ศ. 2495 ที่พลตรีพระจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต และหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ทั้งสองท่านสนใจในธรรมชาติได้เสด็จมาท่องเที่ยว ได้ซื้อที่ดินและได้ปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ ไว้หลังหนึ่งใกล้ ๆ น้ำตกสาริกา ปัจจุบันได้ยกให้เป็นสมบัติของสถานีอนามัย ต่อมาได้พยายามแสวงหาสถานที่เพื่อสร้างตำหนักและอุทยานในชนบทสำหรับพักผ่อนพระอิริยาบถ ในที่สุดได้พบสถานที่ถูกใจจึงได้ซื้อกรรมสิทธิ์ที่ดินจากชาวบ้านที่ครอบครองอยู่บริเวณที่เรียกกันว่า วังตะไคร้ ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิมที่ชาวบ้านเรียกกันมานานแล้วเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศตอนหนึ่งมีลำธารน้ำไหลมาสงบนิ่งอยู่เป็นวังน้ำกว้าง บริเวณนี้มีความงดงามตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของลำธาร 2 ลำธาร ลำธารหนึ่งชื่อคลองมะเดื่อจากน้ำตกเหวกระถินกับอีกลำธารหนึ่งชื่อคลองตะเคียนจากน้ำตกแม่ปล้อง ลำธารทั้ง 2 นี้ ไหลมาบรรจบกันเป็นธารเดียว มีแอ่งน้ำขังเป็นวังน้ำอยู่เป็นตอน ๆ ไหลลงสู่แม่น้ำนครนายก และมีต้นตะไคร้น้ำ ตะไคร้หางนาค นับเป็นพันธุ์ไม้น้ำที่ชอบขึ้นอยู่ตามห้วยลำธารทั่วไป เป็นต้นไม้ที่เหนียวมากมีก้านสีดำ และมีดอกสีชมพูน่ารักมาก บริเวณวังตะไคร้นี้เดิมมีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ต่อมาได้ซื้อกรรมสิทธิ์ที่ดินจากผู้อื่น ขยายตัวเป็นสวนพฤกษชาติ มีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ เนื่องจากวังตะไคร้นี้เป็นด้านที่รับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม จึงทำให้มีฝนตกชุก หุบเขาบริเวณนี้จึงมีพรรณไม้ใหญ่น้อยมากมาย ลำธารน้ำจะมีน้ำเต็มฝั่งไหลเชี่ยวจัด จึงเป็นที่เล่นกีฬาล่องแก่งด้วยแพยางหรือชูชีพกันอย่างสนุกสนาน

            พ.ศ.2497 ได้มีการถางป่า ปรับพื้นที่บางส่วน พร้อมกับสร้างตำหนักเป็นที่ประทับพักผ่อนส่วนพระองค์และญาติมิตร มีผู้มาชมสถานที่นี้บ้างเป็นครั้งคราว ท่านเจ้าของสถานที่ได้รวบรวมพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศฝากซื้อพันธุ์บ้าง จากการสั่งซื้อบ้าง แลกเปลี่ยนกับนักเล่นต้นไม้ด้วยกันบ้างและขยายพันธุ์ที่นี่ด้วยเจตนาจะให้เป็นสวนพฤกชาติอันแท้จริงและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนการขยายบริเวณวังตะไคร้ทำกันอย่างยากลำบากกว่าจะเป็นอย่างที่เห็นขณะนี้ ต้องเพิ่มคนงาน สั่งรถแทรกเตอร์ไว้ใช้งานทำเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำท่วมยามฝนตกหนัก ต้องขุดต้นไม้บางชนิดที่ไม่จำเป็นออกไป ปราบต้นอ้อและหญ้าคา ปลูกหญ้านวลน้อยให้เป็นสนามหญ้าอันเขียวสด ประดับด้วยไม้ดอก ไม้ใบนานาชนิด ปลูกเป็นหมู่บ้าง เดี่ยวบ้าง เป็นไม้ยืนต้นพุ่มใหญ่ พุ่มกลาง พุ่มเตี้ย มีไม้ล้มลุกทั้งไทยและเทศโดยรักษาสภาพธรรมชาติเดิมไว้อย่างสวยงาม มีขุนเขาสูงตระหง่านอยู่เป็นแนวเบื้องหลัง นับเป็นอุทยานที่ตั้งใจสร้างขึ้นจากความฝันของคุณท่านซึ่งมีมากว่า 40 ปี ให้เป็นความจริงขึ้นมา หลังจาก พ.ศ. 2502 อันเป็นปีที่เสด็จในกรมฯ สิ้นพระชนม์ คุณท่านได้ปรับปรุงสถานที่นี้ให้งดงามยิ่งขึ้นเพื่อให้เป็นอนุสรณ์แก่พระองค์ท่าน คุณท่านได้เพิ่มความพยายามทั้งกำลังใจ กำลังทรัพย์ และเวลา ขยายงานที่อุทยานแห่งนี้ตลอดมา เพื่อให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจอันถาวร สร้างความสดชื่น สนุกสนาน รื่นเริง สร้างเป็นสวนพฤกษชาติ พร้อมทั้งให้ความรู้ทางพฤกษศาสตร์ เนื่องจากมีพรรณไม้ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศนำมารวบรวมไว้ เพื่อให้เป็นที่ศึกษาหาความรู้ด้านนี้

 ภาพอุทยานแห่งชาติวังตะไคร้             นอกจากนี้คุณท่านยังได้จ้างผู้เชียวชาญจากกรุงเทพมหานครเข้าไปร่วมงานการจัดสถานที่ให้เป็นสวนสาธารณะอย่างแท้จริงอีกด้วย พ.ศ. 2504 จึงเปิดให้ประชาชนเข้าชมอุทยานวังตะไคร้ นับเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม

            ปัจจุบันอุทยานวังตะไคร้ หรือจุมภฏ - พันธุ์ทิพย์อุทยาน หรือสวนพฤกษชาติวังตะไคร้เแห่งนี้ เป็นสมบัติของมูลนิธิจุมภฏ - พันธุ์ทิพย์ บริหารโดยคณะกรรมการบริหารของมูลนิธิฯเพื่อให้เป็นไปตามตราสารของมูลนิธิฯ ในอันที่จะให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และเป็นที่ศึกษาหาความรู้ทางพฤกษศาสตร์ที่มีความสวยงาม มีไม้ประดับ สวนผลไม้ สวนดอกไม้ สวนปาล์ม สวนต้นไม้ในวรรณคดี สวนไม้ผลป่า สวนป่า และสวนสมุนไพร ทั้งในประเทศและต่างประเทศเกือบทั่วโลกนับร้อยชนิด นับเป็นที่เชิดหน้าชูตาประเทศไทยไปอีกนานแสนนาน

            ในขณะนี้ ทางอุทยานได้จัดโครงการ “คนผจญภัย หัวใจสีเขียว“ เริ่ม วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 มิถุนายน 2547 โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง มีรายละเอียดดังนี้
                        - ช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม หัวข้อ วสันต์ผจญภัย มหัศจรรย์สายธาร
                        - ช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ หัวข้อ เหมันต์ผจญภัย ท่องไปในแดนมรกต
                        - ช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน หัวข้อ คิมหันต์ผจญภัย ประกายแห่งสีสรรค์

            รวมถึงยังมอบส่วนลดสำหรับผู้ที่เข้าพัก ณ อุทยานวังตระไคร้ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
                        - ให้ส่วนลดที่พักในวังตะไคร้สำหรับคืนวันจันทร์ถึงคืนวันพฤหัสบดี (ยกเว้นวันหยุดราชการ) 40% ตลอด โครงการ (เดือนกรกฎาคม 2546 ถึง มิถุนายน 2547)
                        - จับรางวัลชิงโชคเข้าเที่ยววังตะไคร้ฟรี 1 ปี โดยจับรางวัล 3 หัวข้อ ประเภทบุคคล หัวข้อละ 50 รางวัล ประเภทยานพาหนะ (ยกเว้นรถบัสและรถประจำทาง) หัวข้อละ 10 รางวัล และ จับรางวัลชิงโชคพักวังตะไคร้ฟรี 1 คืน พร้อมอาหาร (จำนวนไม่เกิน 10 คน) หัวข้อละ 1 รางวัล

            ประกาศ: ขอเปลี่ยนแปลงค่าเข้าชม จุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ อุทยานวังตะไคร้
            วังตะไคร้มีความจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากทุกท่านในการปรับอัตราค่าผ่านประตูวังตะไคร้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งยังคงเป็นอัตราที่ต่ำกว่าสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ทั้งนี้เพื่อให้มูลนิธิฯ สามารถพัฒนาวังตะไคร้อย่างต่อเนื่องและมอบสิ่งที่ดียิ่งขึ้นตอบแทนคืนสู่ผู้ที่รักและอุปการะคุณต่อวังตะไคร้ โดยกำหนดให้อัตราค่าผ่านประตูใหม่ ซึ่งจะเริ่มใช้ใน วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2546 
                        - นักท่องเที่ยวเดินเท้า คนละ 10 บาท
                        - รถยนต์ รถกะบะ รถตู้ รถสองแถว คันละ 100 บาท (สำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน)
            หมายเหตุ ถ้ามากกว่า 4 คน คิดเพิ่มตามจำนวนคนๆ ละ 10 บาท รถบัส คนละ 10 บาท
            รายได้ทุกบาททุกสตางค์ เราจะนำไปใช้เพื่อพัฒนาวังตะไคร้ หรือเพื่อทำสาธารณประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ จุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องทุนการศึกษาและการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม รายได้ทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากท่าน เราจะคืนสู่สังคม มูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ และอุทยานวังตะไคร้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความอุปการะและความสนับสนุนด้วยดีตลอดมา


  
 

รายละเอียดที่พัก

จุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ อุทยานวังตระไคร้ จ.นครนายก

NO
ชื่อบ้านพัก
จำนวนคน
ราคา/คืน
1.
บ้านแก่ง
2.
บ้านเกาะ(แอร์)
12
3,800
3.
บ้านริมน้ำ
12
3,000
4.
บ้านรับรองริมน้ำ
5
1,500
5.
บ้านเชิงดอย
12
1,500
6.
บ้านแก่งน้อย
9
1,500
7.
บ้านรับรองธารทิพย์
8
2,000
8.
บ้านธารทิพย์
12
3,500
9.
เรือนนอน 2
48
4,800
10.
เรือนนอน 5
24
2,400
11.
บ้านใหม่
15
1,800
12.
บ้านกลางน้ำ
8
2,000
13.
บ้านริมทาง 1
6
1,300
14.
บ้านริมทาง 2 (แอร์)
2
800
15.
บ้านใหญ่ (แอร์)
22
6,000
16.
บ้านเล็ก
8
1,500
17.
บ้านพลอย
7
2,500
18.
บ้านหัวหาด
6

1,300

19.
บ้านจามจุรี
6
1,300
20.
บ้านเขื่อน
7
1,300
21.
บ้านริมคลอง
15
1,800
22.
บ้านเชิงเขา
5
1,200
23.
บ้านชายเขา
9
1,500
24.
เรือนนอน 3
50
คนละ 100 บาท
25.
เรือนนอน 4
50
คนละ 100 บาท

**จำนวนคนเข้าพักเพิ่มเกินที่กำหนดไว้คิดเพื่มคนละ 50 บาท
สอบถามเพิ่มเติมที่

จ.นครนายก        037-385-164-5 , 037-385-284     ติดต่อบ้านพัก กด102 ส่งเอกสาร 124

 

รายการอาหารวังตระไคร้

อาหารประเภทแกง

1. แกงจืดหน่อไม้ไก่หมู
2. แกงจืดเกี่ยมฉ่ายไก่-หมู-กระเพาะหมู
3. แกงเขียวหวานไก่หมูลูกชิ้นปลา
4. ปลาช่อนแป๊ะซะ
5. ต้มข่าไก่
6. ต้มยำไก่


อาหารประเภทยำ

1. ยำปลาดุกฟู
2. ยำสามกรอบ
3. ยำตระไคร้
4. ยำหมูย่าง
5. ลาบไก่-หมู-ปลาดุก
6. ยำวุ้นเส้น


อาหารประเภททอด-ย่าง

1. ปลาช่อนทอดกรอบยำเมล็ดมะม่วงหิมพานต์
2. ปลาดุกฟูผัดพริกขิง
3. ปลาเก๋าราดพริก
4. หมูทอด-ไก่ทอดกระเทียมพริกไทย
5. คอหมูย่าง
6. ไข่เจียวหมูสับ

อาหารประเภทผัก

1. ผัดผักรวมมิตร
2. คะน้าปลาเค็ม
3. คะน้าหมูกรอบ
4. ผักบุ้งไฟแดง
5. ผัดกระเพาหม-ูไก่


อาหารทานกับข้าวต้ม

1. ไข่เจียว
2. ยำกุ้งแห้ง
3. ยำกุนเชียง หรือ กุนเชียงทอด
4. ยำไข่เค็ม
5. หัวไชโป้วผัดใส่ไข่
6. ยำเกี้ยมฉ่าย
7. ข้าวต้มหมู-ไก่
8. ปลาท่องโก๋-กาแฟ


อาหารอื่นๆ

1. ข้าวเหนียวส้มตำ ไก่ย่าง
2. น้ำพริกปลาทู ผักสด ผักต้ม
3. ไข่พะโล้
4. ขาหมู
5. ขนมจีนแกงเขียวหวานลูกชิ้นไก่-หมู
6. ขนมจีนน้ำพริก-ขนมจีนน้ำยา

หมายเหตุ


อาหารเช้า คนละ 50 บาท
กลางวัน คนละ 100 บาท
เย็น คนละ 100 บาท

อาหาร 3 อย่าง/มื้อ 
ถ้าเพิ่มอาหารคิดอย่างละ 35 บาท

 


 




กลับไปหน้าวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ